Cesky Krumlov

ทริปนี้เกิดขึ้นมาจาก ผมเคยไปดูงานที่ประเทศเยอรมันมา 6 วัน 3 คืน แต่อย่างว่านะครับ มันเป็นการดูงานจะหนีไปเที่ยวคงจะไม่ดีแน่นอน ผมก็พยายามที่จะเก็บบรรยากาศเก็บภาพให้ดีที่สุด แต่มือถือมันดันรวนมีปัญหาถ่ายรูปเบลอบ่อยๆ อีกทั้งเวลาในการจะแวะตามสถานที่ต่างๆมันน้อยเกินไป คิดดูสิครับ 3 วัน  บินไปบินกลับ มันไม่สาแก่ใจ

อีกอย่างการที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ ที่มีชีวิตวุ่นวาย มากมายผมจึงอยากจะหลบไปหาความหมายของชีวิต หาคำตอบของคำว่า” ความสุขของชีวิต” ของเรานั้นมันจะเป็นยังไง เป้าหมายที่แท้จริงของเราคือ บ้าทำแต่งาน หรือทำงานพร้อมกับหาความสุขให้ชีวิตไปเรื่อยๆ เยอะแยะมากมายครับหลายคำถามที่จะไปหาคำตอบทีั่นั่นด้วย

อ่อลืมไปครับผมอยากออกจากกะลาใบเก่าของผม ไปสู่กะลาใบใหม่ที่มันกว้างกว่าเดิม ไปที่ๆมีคนเปิดกว้างยอมรับความคิดของกันและกัน เคารพสิ่งกันและกัน หลายสิ่งหลายอย่างที่ในสังคมที่ผมอยู่มันไม่ค่อยมีเท่าไหร่ครับ

จึงคิดว่าไปเองดีกว่า ก็เริ่มคิดแผนแล้วว่าไปแล้วก็ไปให้มันนานๆ จริงๆกะไปสัก 30 วันด้วยซ้ำครับ แต่เวลามันไม่ลงตัว แล้วก็เริ่มวางแผนทริปขึ้นมา โดยขอคำแนะนำจาก เพื่อนผมชื่อฝนและป้อง ทั้งคู่ก็ให้ แพลนทริปมา ส่วนการวางแผนต่างๆก็มีถามจากพี่ในพันทิพย์บ้างโดยเฉพาะ พี่ Me Moo-Yong ซึ่งช่วยหาข้อมูลแนะนำมาเยอะแยะมากครับ ขอบคุณมานะที่นี้ด้วย

ผมก็เริ่มโดยการรอตั๋วโปรโมชั่นครับ กะงบประมาณเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินไม่เกิน 25,000 บาท รอสักสองสามเดือน ทางสายการบิน Qatar Airways ก็มีโปรโมชั่นดีๆดังที่ตั้งใจออกมา เราสามารถเข้าเวบไซต์ไปดูได้ครับ ตามลิงค์นี้เลย  http://goo.gl/ylZKS4

ในที่สุดก็ได้มาในราคา 22,356 บาท Suvannabhahumi – CDG   ,  Vienna – Suvannabhahumi แวะเปลี่ยนเครื่องที่ DOHA เดินทางโดยเครื่องบิน A380 และ 787 Dreamliner ครับ

จากนั้นก็ทำการวางแผนทริปได้แล้วครับ เดินทางทั้งหมด 20 วัน โดยวางแผนดังในภาพเลยครับ จริงๆแล้วใครจะวางแผนคร่าวๆอย่างไรก็ได้ แต่พอดีผมกับน้องมีเวลาพอสมควรในการวางแผน จึงค่อยๆลงรายละเอียดไปซึ่งพอเดินทางจริงก็อาจจะไม่เป็นอย่างที่วางก็ได้ครับ

แผนการเดินทางของเราตามภาพนี้เลย

จากที่เห็นในภาพเราใช้วิธีการ ซื้อตั๋วล่วงหน้ามากกว่า 3 เดือน การเดินทางจะมีดังนี้

1. รถไฟ TGV  จาก Paris ไป Interlaken เป็นขบวนที่ออกจากปารีสตอนเย็น ถึง Interlaken ประมาณ เที่ยงคืน ราคาปกติประมาณ 150 – 200 Euro แต่เราซือได้ในราคา 29 Euro ต่อคน
2. รถไฟจาก Interlaken ไป Munich ราคาประมาณ 90-120 Euro ซื้อล่วงหน้า 58.5 Euro จริงๆคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 39 Euro เท่านั้นครับ อ้างอิงจากโปรโมชั่นปีก่อนๆ แต่ทุกอย่างมันขึ้นไปหมดแล้วผมคงช้าไปด้วย ซึ่งขบวนนี้จะมีปัญหาตรงที่เราจะต้องเปลี่ยนรถไฟถึงสองครั้ง ภายในเวลาครั้งละ 10 นาที คือถ้า เปลี่ยนไม่ทันเราตกรถไฟ ก็ต้องเสียค่าตั๋วที่แพงกว่าที่ได้วางไว้ คราวนี้เราซื้อผ่าน www.captaintrain.com ซึ่งก็ซื้อตั๋วง่ายนะครับ
3. รถบัสจาก Munich ไป Prage เราใช้บริการของ https://meinfernbus.de/ ซึ่งได้คำแนะนำมาจากพี่ Pook Ladawan จากกลุ่ม รวมพลคนไปยุโรปและอเมริกา ราคา 19 Euro เท่านั้น เนื่องจากเราพลาดซื้อตั๋วโปรโมชั่นไปนั่นเอง
4. รถบัสจาก Prage – Cesky Krumlov – Ceske Budajovice – Brno – Wien ก็ใช้บริการ Studentagency  ซึ่งประหยัดจริงๆครับ ยิ่งซื้อล่วงหน้าก็จะได้ราคาถูก

ส่วนที่พัก เราจะใช้บริการจาก Airbnb ที่ฝรั่งเศสเพราะอยากได้สถานที่พักผ่อนนอนสบายราคาไม่แพง จริงๆเราจะนอนโฮสเทลก็ได้นะครับแต่เพิ่งจะเดินทางมาขอสบายๆก่อนจะไปตะลุยอีกหลายที่ก็แล้วกัน

จากนั้นที่พักตลอดทางเราใช้บริการ จาก hostelworld และ Booking.com ส่วนมากเราจะได้ Hostel จาก hostel world ครับหาง่ายดี วิธีการง่ายในการเลือกโฮสเทล ดูตามนี้ครับ

• Rating ของ Hostel ดีๆหน่อยจะมี Rating Score 8 – 10 คะแนนครับ
• Location ของ Hostel อยู่ในบริเวณที่เที่ยวของเรามั้ย ถ้าต้องการถูกอาจจะพักไกลออกไปหน่อยครับ หากเดินกันไหวหรือจะใช้บริการระบบขนส่งอย่างอื่น
• ราคา ซึ่งจะเป็นไปตามห้องที่มีจำนวนเตียง มากน้อย ตั้งแต่ 2 – 25 เตียงกันเลยทีเดียว ก็อีกนั่นแหละครับ เลือกเอาตามใจชอบ รับได้ราคาไหนเท่าไหร่  แต่ส่วนมาก Hostel ที่ต่างประเทศจะดีครับ
• ควรอ่าน Review , Comment ของผู้เข้าพักล่าสุดสัก 10 – 20 เพื่อดูการบริการและ Facility ล่าสุดของเค้าว่ามีความสะดวกสบายอย่างไรด้วยนะครับ ไม่ใช่ดูแต่ Rating Score อย่างเดียว
• เลือกจำนวนเตียงที่จะจองให้ถูกต้องนะครับ
• อ่านให้ดีว่าราคานี้รวมอาหารเช้าหรือเปล่าราคาเท่าไหร่ เค้าจะมี Conditions และ Facilities ต่างๆให้เราเห็นชัดเจน
• ค่า Tax Fee เป็นอีกค่านึงที่เราอาจจะต้องจ่ายในบางประเทศ แล้วแต่ Rate ของเค้าจะมีแจ้งด้วย ค่า Tax Fee จะจ่ายตอนเราเข้าพักครับ
• อีกเรื่องนึงคือ เค้าจำกัดอายุ ของผู้เข้าพักหรือไม่ ต้องดูเงื่อนไขดีๆนะครับเดี๋ยวมีปัญหา บางห้องเค้าไม่ให้อายุ มากกว่า 35 เข้าพักครับ

จากนั้นก็ชำระเงินโดยเป็นค่ามัดจำประมาณ 12% ของค่าที่พักทั้งหมด แล้วทาง Hostel World มีบริการ Flexible fee คนละ 1$ สำหรับที่เวลาเราจะ Cancel แล้วไม่เสียค่ามัดจำไป 12% ไปครับ ลองคำนวนดูบางทีก็คุ้มกับจำนวนเงินมัดจำครับ ตัวผมยอมจ่ายหมดเพื่อความสะดวก

บางคนอาจจะคิดว่างั้นก็ไปจอง Booking.com เลยสิมี Free Cancelation ด้วย แต่ผมว่าเอาราคามาเทียบกันก่อนนะครับหลายๆเวบ บางที Booking.com ก็แพงกว่าแม้จะมี free Cancelation ก็ตาม

Hostel ในฝรั่งเศส สวิส เยอรมันและ ออสเตรีย ที่มันดูน่านอนหน่อย ราคาประมาณ 800 – 1500 บาท ต่อคืน ต่อคน  ดังนั้นลองเทียบดูว่ามีโรงแรมที่ไหนถูกกว่านี้มั้ยบางทีมันจะมีโปรโมชั่น early bird, web payment อะไรต่างๆ ซึ่งเราจะได้ราคาดีกว่า

ส่วน Hostel ที่ เชค นั้นราคาถูกเหลือเชื่อ 400-600 บาท ไม่แพงเลยครับ เมื่อเทียบกับ Rating Score ที่ดีเกินคาด

Hostel ที่เรานอน มีดังนี

จริงๆทริปนี้เราคำนวนไว้ทั้งหมด fixed ค่าใช้จ่ายที่ 65000 บาทครับ แต่พอไปเข้าจริงๆราคาทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะราคาขึ้นเขาชิลธอร์น ค่ากินที่แบบว่าพวกเราตบะแตกไม่สามารถกินอาหารฝรั่งได้ทุกมื้อเพราะมันเอียนซะเหลือเกิน ก็เลยขอกินมื้อพิเศษบ้าง อาหารไทยบ้าง เลยโอเวอร์มา ประมาณ 10000 บาทครับ ซึ่งผมก็ได้เผื่อค่าใช้จ่ายไว้ประมาณ 10000 บาทพอดิบพอดี ก็ถือว่าวางแผนสำรองไว้ตรงตามเป้าหมาย  แต่เรื่องค่ากินนี่ผมว่าแล้วแต่คนนะครับบางคนอาจจะเที่ยวอย่างเดียวประหยัดค่ากิน หรือคิดว่าไปแล้วขอกินนั่นกินนี่ซะหน่อยมาทั้งที ก็แล้วแต่ครับ

การเที่ยวส่วนมากเราก็เน้นเดิน เพราะเราจะเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆด้วยเผื่อเจออะไรแปลกใหม่แปลกตา ซึ่งจริงๆปกติแล้วที่ต่างประเทศที่เที่ยวมันอยู่ไม่ไกลกันหรอกครับเดินไปก็ถึง อาจจะมีบ้างทีต้องนั่งรถไฟฟ้า รถราง รถบัสไป ก็ไม่ไกลมาก เดี๋ยวผมจะมาเขียนต่อว่าไปเจออะไรมาบ้างในแต่ล่ะประเทศ

มีอะไรสงสัยก็สอบถามกันมาได้ครับ เอาจากประสบการณ์ที่เจอมา คงไม่ถึงกับเป็นกูรูอะไรขนาดนั้น เขียนเอาสนุกเป็นไดอารี่ ความทรงจำ งานอดิเรก แต่ก็นำมาแชร์และเล่าสู่กันฟังที่เพจผมก็ได้ ที่ใต้โพสนี้ก็ได้ครับ

FB : www.facebook.com/i2escape

IG : www.instagram.com/i2escape

Website : www.i2escape.com

รูปภาพบางส่วนครับ

• Author
• Recent Posts

ติดตามผมได้

Tony

สมัยเด็กๆ ผมได้มีหนังสือที่เป็นเล่มโปรดเล่มแรก "80 วันรอบโลก" และ "พี่น้องตระกูลไรท์" ซึ่งเป็นหนังสือที่อ่านไม่รู้กี่รอบ ผมก็เลยมีความฝันที่จะไปเที่ยวรอบโลกให้จงได้ พอมาถึงวันนี้ทำงานหาเงินเองได้แล้ว ก็ขอไปทำตามความฝันนั้น ก่อนที่จะไม่มีแรงเหลือที่จะเดินเที่ยวแบกเป้

ติดตามผมได้

Latest posts by Tony (see all)

• EP3.7 Hallstatt สวรรค์บนดิน - January 14, 2024
• เริ่มต้นท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอย่างไร - May 3, 2023
• คนไปเที่ยวเขต Kanto ต้องไม่พลาดตั๋วนี้ “Greater Tokyo Pass” บัตรเดียวคุ้ม - March 24, 2018