EP3.6 Salzburg ท่ามกลางสายฝน บ้านเกิด Mozart และร้านอาหารเอเชียสำหรับคนเบื่ออาหารยุโรป
Ep นี้ผมเดินทางจากมิวนิคเยอรมันเมื่อเย็นครับแล้วมานอน Yoho International Hostel ที่นี่ 1 คืนแบ่งเสื้อผ้ามาชุดเดียว ที่เหลือฝากไว้ที่ Euro Youth Hostel เราจะมาเที่ยวเมือง Salzburg ซึ่งเป็นเมืองๆ นึงในเขตพรหมแดนเยอรมันและออสเตรียที่เราจะไปต่อที่ Hallstatd อีกวันนึงครับ เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงามสงบร่มเย็นแล้วก็มี ป้อมปราการยักษ์อยู่ข้างบน ที่สำคัญเลยเป็นบ้านเกิดของ Mozart ศิลปินชื่อก้องโลก ที่เรารู้จักกันดีนะครับ เหมือนเดิมครับทริปนี้ของผม ฝนตก!!! ภาพสวยๆฟ้าใสๆไม่ได้มีกับเค้าเท่าไหร่หรอก ชมสถานที่ต่างๆไปพลางๆแล้วกันนะครับ สำหรับ EP3.6 Salzburg ท่ามกลางสายฝน บ้านเกิด Mozart และร้านอาหารเอเชียสำหรับคนเบื่ออาหารยุโรป นี้จะพาเดินเที่ยวทั่วเมืองเลยเพราะวันนี้เป็นของเมืองนี้ทั้งวันก่อนที่พรุ่งนี้จะไป Hallstatd กัน
สไตล์ของตึกรามบ้านช่องของเค้าเป็นสไตล์บาโรค นี่ถ้าแสงแดดมาน่ะครับจะขับสีสีของเมืองได้แบบว่าอลังการมากๆเลย
ทุกที่ต้องมีโบสถ์ให้แวะชมตลอดครับ ยุโรปนี่โดยส่วนมากเป็นเมืองที่มีระเบียบวินัยและความสะอาดน่าอยู่มากๆ เดินไปทางไหนผมว่ามันสบายตาดีครับ
เนื่องจากการเดินทางในเมืองนั้นใช้การเดินเป็นส่วนใหญ่ ผมก็จะเดินลัดเลาะไปตามตึกรามบ้านช่องต่างๆ ไม่ค่อยเดินไปตามทางปกติของเค้าเท่าไหร่ ก็จะเห็นมุมอะไรแปลกๆตาที่เราจะไม่ค่อยพบเจอมาก่อนครับ
เราต้องเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำมายังอีกฝั่งนึงก็เลยเดินลัดเลาะไปตามถนนไปเรื่อยๆ บริเวณนี้เป็น ถนนที่มีพวกร้านอาหารต่างๆครับอย่าถามว่าถนนชื่ออะไร ชื่อจำยากอ่ะ ป่ะเดินต่อเถอะ
ระหว่างทางเจอโบสถ์สวยๆก็แวะครับน่าสนใจดีว่าแต่ล่ะที่เค้ามีการทำสถาปัตยกรรมตกแต่งกันแบบไหนบ้าง
วันนี้ประตูเข้าไปชมภายในปิดเลยอดเข้าไปชม ก็เลยส่องๆเอา คลาสสิคมากครับไม่รู้จะใช้คำไหนมาพูดดี เค้ารักษาไว้อย่างดี
แม้แต่การตกแต่งประตูที่จับประตูก็มีความรักษาศิลปะและสไตล์ของเค้าไว้ครับ
การจารึกและจินตนาการเกี่ยวกับพระเยซูหรือพระเจ้ามีการจารึกเขียนไว้อย่างมีความหมายและตัวหนังสือสไตล์แบบนี้มันดูลึกลับมีประวัติศาสตร์ดีครับ
พอออกจากภายในโบสถ์มาก็จะเจอถนนที่จะเดินไปอีกฝั่งนึงซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของเมือง Salzburg
อากาศหนาวคนเดินน้อย ฝนตกด้วยยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่แต่อากาศไม่ดีเลยครับ
ตามตรอกซอกซอยก็ยังมีร้านอาหารร้านค้าอีกเยอะแยะครับ ถ้ามีเวลาเดินเที่ยวมากกว่านี้จะดีมากๆเลย
มาแล้วครับเดินข้ามแม่น้ำกัน สะพานที่เห็นตรงนู้นเป้นอีกสะพานนึงที่คู่รักชอบเอากุญแจมาเขียนชื่อแล้วก็คล้องไว้บนสะพานเพื่อประกาศความรักแก่กันครับ แนะนำว่าควรเอามาเองถ้าซื้อแพงแน่นอน
ทางลอดถนนไม่ต้องเดินข้ามถนน ก็จะมีพวก กราฟิตี้ Street Art สวยๆแปลกตา ตลอดทาง
อาคารของเมือง Salzburg หรือในยุโรปส่วนมากจะมีพวกภาพประวัติต่างๆอยู่บนตึกมีความขลังบ่งบอกถึงอายุของอาคาร
สังเกตดูเวลาไปเราไปแต่ล่ะที่เค้าจะมีน้ำพุ ซึ่งบนยอดของเสาในน้ำพุจะมีรูปปูนปั้นสวยๆ แต่ไม่ใช่ปั้นมาเล่นๆนะครับจะบอกเรื่องราวต่างๆทางประวัติศาสตร์ไว้อีกด้วย
เดินเข้ามาข้างในเมืองเส้นที่เราเดินไปยังทางขึ้นป้อมปราการและโบสถ์จะมีนาฬิกาและเครื่องวัดอุณหภูมิ ร่วมสมัยตั้งอยู่
โผล่ออกมาเจอแล้วครับ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์
Stiftskirche Sankt Peter Salzburg
เป็นโบสถ์ของเมืองนี้ที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเข้าชมด้วยความอลังการและมีประวัติศาสตร์ของเมืองครับ
บริเวณรอบๆจะเป็นลานกว้างให้ชาวเมืองได้พักผ่อนหย่อนใจ ตอนนั้นทั้งฝนตกและอากาศเย็นสบายมากๆครับ เดินชมสถาปัตยกรรมของเมือง ที่ยังคงความยิ่งใหญ่ของสมัยก่อน และกลิ่นอายของยุโรปโบราณได้อย่างดีครับ
มาดูอีกมุมนึงครับ ท้องฟ้าจะอึมครึมนิดหน่อยครับหลังฝนตกใหม่ๆ ชาวเมือง Salzburg ก็ยังออกมาเดินเต็มไปหมด อ่อแนะนำนิดนึงครับหากใครต้องการส่งไปรษณีย์สามารถเดินไปทางขวาของตึกนี้ได้นะครับ
วิวสวยๆ มองได้อย่างมีความสุขไม่รู้จักจบจริงๆครับ
เดินต่อกันเข้าไปอีกครับ เหมือนเดินอยู่ในพระราชวัง มันยิ่งใหญ่อลังการมากๆครับ
มองเลยไปอีกหน่อยจะเป็นป้อมปราการ Fortress Hohensalzburg ตั้งอยู่บนยอดเขาถ้าขึ้นไปบนนี้จะเห็นวิวทั่วทั้งเมืองเลยล่ะครับแต่วันนี้อากาศไม่ดีผมเลยไม่ได้ขึ้นไปข้างบน
ภายในของโบสถ์ เด็ดมากๆ สวย หนาวเย็น เข้าไปอยู่ในโลกของศาสนาคริสต์ สถาปัตยกรรมต่างๆที่สร้างขึ้นมามีความปราณีตและมีการบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างครับ
เข้าไปเยี่ยมชมข้างในแล้วก็เอาซะหน่อย เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม จุดไฟเพื่อขอพรจากพระเจ้าของชาวคริสต์กันหน่อยครับ
เสร็จแล้วมาเดินชมภาพข้างในชัดๆอีกทีครับ อาจจะไม่คมเท่าไหร่ แต่ก็เห็นรายละเอียดภายในว่าเค้ามีความปราณีตแค่ไหนในการสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมา
สุดยอดมากๆ ดูแล้วเพลินครับ
ลองมองขึ้นไปข้างบนของหลังคาโบสถ์ครับจะมีเครื่องดนตรีขนาดใหญ่เอาไว้สำหรับ โอกาสพิเศษหรือช่วงวันอาทิตย์ที่มีศาสนิกมาเข้าโบสถ์กันครับ เดินออกมาเริ่มใกล้กับป้อมปราการแล้วครับถ้ามองไปทางขวาจะเห็นรถรางไฟฟ้าสำหรับขึ้นไปข้างบนนะครับ ให้เดินตรงไปตามซอยข้างหน้าจะเห็นทางขึ้นครับ
เด็กๆเล่นหมากรุกยักษ์กันครับ ใกล้ๆกับสถาปัตยกรรมทรงกลมสีทอง
บริเวณนั้นจะมีขนมปัง ขายราคาไม่แพงมากเพราะชิ้นมันใหญ่ทานแก้หนาวได้ดี อิอิ
บางอย่างก็อร่อยนะครับบางอย่างก็ไม่อร่อยแล้วแต่ชอบครับ
สวยมากยิ่งใหญ่อลังการ
ตรงลานหมากรุกตรงนี้กลายเป็นที่เล่นของเด็กๆไปเลยครับ ได้ทดสอบสมองประลองปัญญากันเลยครับ
อ่ะฟลุ๊คมาก เจอเจ้าหมาตัวนี้ ประกวดงานระดับโลกมาแล้วครับ เจ้าของภูมิใจนำเสนอมากๆครับ
ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆต้องหาที่เดินหลบแล้วครับชักไม่ไหวหนาว
เลยเดินผ่านมาแถวตลาดปรากฏว่าเจอร้านนี้มีทั้ง ham ขนมปัง ชีส สารพัดเลย พลาดที่สุดครับไม่น่าไปกินร้านนู้นก่อนเลย อิ่มซะแล้ว
สารพัดจะหากินครับในตู้แต่ราคาก็ ตั้ง แต่ 18 ยูโรต่อกิโล ก็ลองดูว่าเราจะกินเท่าไหร่ครับ
ถัดมาก็มีพวกสลัดต่างๆแบบแปลกๆที่บ้านเราไม่เคยมีแน่นอนครับ รสชาดก็อร่อยดีนะครับแปลกๆไม่เคยกินแบบนี้ครับ
ผักสดในตลาดก็มีเยอะสวยๆน่ากินทั้งนั้น แหม่ถ้านอนที่นี่อีกคืนจะซื้อไปทำกินเองซะหน่อย
พริกที่นี่ก็สีสดสุดๆ แต่ผมว่ามันคงไม่น่าจะเผ็ดอ่ะครับ
โหเป็นไงล่ะครับละลานตา จะซื้อลองชิมทุกอย่างคงไม่ไหวแพงอ่ะครับ
ลืมบอกไปครับภายในเมืองของ Salzburg จะมีตรอกซอกซอยให้เราเดินทะลุไปอีกทางนึงได้นะครับ ดูป้ายตามนี้เลย
เดินไปตามถนนคือจะมีห้างร้านต่างๆมากมาย อยู่ภายในตึกและสถาปัตยกรรมของเมือง ซึ่งกลมกลืนมากๆครับ
อาหารในเมืองนี้น่ากินทั้งนั้นเลยครับแต่ขออดใจหน่อยแพงงงงงงงเหลือเกิน ตอนนี้อยากกินอะไรเผ็ดๆแบบอาหารไทยๆ ก็เริ่มเดินหาสิครับอยากกินร้านอาหารเอเชีย ระหว่างทางไปบ้านของโมสาร์ท
ร้านนี้ครับ Nordsee เป็นร้านอาหารทะเลราคาแพงเอาเรื่อง
ระหว่างเดินไปเดินมาก็เริ่มไม่ไหวปวดฉี่ หนาว เปียก ฝนตกทำไงดีล่ะก็เข้าร้านกาแฟ Starbuck ไปก่อนล่ะกันครับนั่งดูแผนที่ด้วยว่าจะไปไหนกันต่อ
ความคลาสสิคของร้านมีชั้นใต้ดินครับ 55555 แจ๋วเลย เลยขอถ่ายรูปมาสักหน่อยสวยงาม เหมือนอ่านหนังสือในห้องใต้ดิน
เสร็จแล้วเราจะเดินไปสถานที่ถ่ายทำหนังเก่าแต่โคตรจะโด่งดัง The Sound of Music ก็จะผ่านสะพานเหล็กที่ผมบอกครับ พวกกุญแจเพียบเลย
แต่คงจะห้ามไม่ให้มาแขวนเยอะเพราะกลัวจะรับน้ำหนักไม่ไหวเดี๋ยวจะพังซะก่อนเป็นอันตรายไปอีก
มองหันหลังกลับไปเป็นป้อมปราการขนาดยักษ์ ขนาดไกลๆขนาดนี้ยังมองเห็นเลยครับคิดดูล่ะกัน
ข้ามมาแล้วก็เดินไปตามลูกศรเลยถึง
ถึงแม้ฝนตกก็ยังมีนักท่องเที่ยวออกมาเดินเที่ยวเพียบครับ เพราะความสวยงามของเมืองมันทำให้ไม่มีใครอยากหลบฝนกันเลยทีเดียว เดินต่อครับเราจะไปตรงสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Sound of Music หนังดังแห่งยุค มหาอมตะนิรันด์กาลครับ
ฝนเริ่มตกหนักอีกครั้งแล้วครับ ไม่รู้ทำไมฝนตกตลอดช่วงมายุโรป
ภาพหลังจากนี้จะเป็นภาพที่ตากฝนเปียกฝนแล้วครับ ไม่ไหวแล้ว
เมื่อเดินท่องเที่ยวกันจนไม่ไหวแล้วสงสัยคงต้องหาอะไรกินแล้วครับแต่คือ ผมเอียนมากๆกับอาหารยุโรปแบบว่านี่มันก็ประมาณ 10 วันเห็นจะได้ ขอหาอาหารเอเชียหรืออะไรเผ็ดๆทาน ผมไปเจอมาร้านนึงเป็นคนเกาหลีทำครับ รสชาดดีมากแล้วที่สำคัญ เยอะมากกกกกกกกกกกกก
นี่ครับอยู่ในซอกของตรอกที่ผมเคยบอกว่าสามารถเดินทะลุถึงกันได้ หน้าร้านเค้าจะมีป้ายเล็กๆบอกว่ามีร้านอาหารอยู่ในนี้นะเท่านั้นครับเป็นธรรมดาของร้านที่นี่อยู่แระ
แกงเขียวหวานไก่ตามสไตล์ยุโรป เสิร์ฟพร้อมกับข้าวราคาประมาณ 7 Euro ครับ มาดูหน้าตาอาหารกันดีกว่า น่ากินมากกกกกกกกก ฟินสุดๆเวลานี้
ร้านนี้ชื่อ Kim168 คนเกาหลีเป็นคนทำอาหารคิดดูล่ะกันครับ
ร้านเค้าอยู่ตรงซอยป้ายร้านนี้ครับ
เนี่ยเลยเราจะเห็นป้ายร้านอาหารเล็กๆของเค้า แต่ไม่ใช่ว่าอาหารเอเชียจะอร่อยทุกร้านนะครับ บางร้านก็ยอดแย่เลยเหมือนกัน
เมนูก็จะมีประมาณนี้ซึ่งค่อนข้างเยอะเค้าทำได้หลายอย่าง คนชอบมาซื้อกลับไปทานที่บ้านหรือนั่งทานแปปๆก็ไปครับ
จบแล้วครับสำหรับวันนี้เที่ยว Salzburg คือว่ารูปมันเยอะมากๆผมก็พยายามจะนำมาให้ชมให้ครบหมดแต่จะเขียนให้ละเอียดเลยก็ค่อนข้างยากเพราะเดิน ไปเรื่อยเปื่อยอยากอยู่ตรงไหนก็อยู่ครับ
อย่าลืมติดตามกันต่อได้ที่เพจนะครับ มีอะไรสอบถามมาได้ตลอดเลย
FB : www.facebook.com/i2escape
IG : www.instagram.com/i2escape
Website : www.i2escape.com
- EP3.7 Hallstatt สวรรค์บนดิน - January 14, 2024
- เริ่มต้นท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอย่างไร - May 3, 2023
- คนไปเที่ยวเขต Kanto ต้องไม่พลาดตั๋วนี้ “Greater Tokyo Pass” บัตรเดียวคุ้ม - March 24, 2018
One thought on “EP3.6 Salzburg ท่ามกลางสายฝน บ้านเกิด Mozart และร้านอาหารเอเชียสำหรับคนเบื่ออาหารยุโรป”