Site icon I 2 ESCAPE (ว่างก็เที่ยว)

EP3.3 เที่ยว Nuremberg อดีตศูนย์ประชุมหลักพรรคนาซี

EP3.3 เที่ยว Nuremberg อดีตศูนย์ประชุมหลักพรรคนาซี

ตอนนี้ผมยังอยู่ในเยอรมันครับที่เยอรมันจะใช้เวลาถึง 5 วันในการอยู่ที่นี่ Visa มันของ่ายขอเมืองอื่นยากกว่า(มั้ง) 555 มาๆต่อๆ ตั้งต้นที่ Munich HBF เหมือนเดิมครับใช้ตั๋ว Bayern อีกเช่นเดิม ข้อมูลต่อจากรีวิวอันนี้ EP3.2 ชมปราสาทแห่งความฝันนอยชวาสไตน์ โฮเฮ็นชวานเกา ฟุสเซ็น จะมีวิธีการซื้อตั๋วอยู่ครับ

ตอนเช้าผมก็หวังว่าอากาศจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ อากาศขมุกขมัวเหมือนเดิมใจอยากจะได้ภาพสวยๆท้องฟ้าสีฟ้าสดใสบ้างแต่ทำไงได้ ไปลุยกันต่อดีกว่า วันนี้ เดย์ทริปเหมือนเดิมครับจาก Nuremberg จะไปต่อที่ Rothenberg ob de Tauber วันนี้ค่อนข้างจะใช้เวลาคงจะกลับดึกแน่นอนครับ รอบรถไฟในแต่ล่ะวันเช็คได้ที่ www.bahn.com ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงครับ

รถไฟของเราวันนี้เป็นแบบนี้ระยะสั้นๆ ที่นั่งนั่งสบายพอสมควรเลยทีเดียว  ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงผมก็มาถึงสถานีรถไฟ Nuremberg อย่างแรกที่ต้องไปคือ Information Center เพื่อจะเดินหาร้านขายไส้กรอกที่มีประวัติมายาวนานหลายร้อยปีครับ ซึ่งพอผมเข้าไปถามจริงๆแล้วคืออร่อยทุกร้าน เหมือนๆกันมีประวัติยาวนานหลายร้อยปีเช่นกันเค้าบอกเลือกเอาเลย เดี๋ยวรีวิวตอนหน้า EP3.3.1 จะพาไปกินกันครับ

 

หลังจากได้แผนที่เที่ยวชมเมือง Nuremberg กันแล้วก็เดินเข้าไปเลยเป้าหมายของเราคือ Hauptmarket square สถานที่จัด Christmas Market ที่โด่งดัง ซึ่งจะมีโบสถ์ Frauenkirche และมี Schöner Brunnen(Beautiful fountain) ตั้งอยู่นะครับ เล่าให้ฟังคร่าวก่อน เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่มีอายุยาวนานมากกมีการบันทึกข้อมูลยาวนานตั้งแต่ปี คศ 1300 กำแพงเมืองก็ยาวรอบเมือง 5 กิโลเมตร สำหรับตัวเมืองเก่าครับ

โรงแรมหรือธุรกิจต่างๆจะแฝงตัวอยู่กับสถาปัตยกรรมของเมืองโดยไม่ได้ทำให้ สถาปัตยกรรมเดิมของเมืองเสียไป ผมจะเดินไปทางถนน Königstraße

ดูจากสภาพของตึกรามบ้านช่องยังคงสไตล์ของยุคโบราณไว้ได้อย่างดีมีความคลาสสิคมากๆครับ ดูโคมไฟสิครับเป็นอยู่บ้านเราคงถูกเขวี้ยงแตกไปแล้ว
เมืองนี้เป็นเมืองที่คนไม่พลุกพล่านและคนค่อนข้างมีน้ำใจ ในขณะที่ผมกำลังยืนดูแผนที่อยู่ก็มีคนเข้ามาถามจะให้ความช่วยเหลือครับ ใจดีจริงๆ
บริเวณตามทางก็จะมีร้านประจำอย่าง Segafred เปิดอยู่ทั่วไป ไปที่ไหนก็เจอร้านนี้ฝากท้องได้เลยล่ะ
เมื่อเดินเข้าไปถึงย่านที่เป็นแหล่งชอปปิ้งเพื่อจะมุ่งสู่พื้นที่ของตลาดนั้น เริ่มจะเห็นมหาวิหาร Pfarrhaus Lorenzkirche แล้วครับเป็นโบสถ์สไตล์ Gothic ขนาดใหญ่ ซึ่งมีประวัติอันยาวนานตั้งแต่ คศ 1250 กันเลยทีเดียวถูกทำลายไปบางส่วนเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกบูรณะขึ้นใหม่จนสวยงามยันปัจจุบันครับ ภายในจะมีประวัติภาพต่างๆอยู่ด้วย พอเข้ามาถึงเค้าก็จะมีประวัติรูปภาพและเศษวัสดุต่างๆของสมัยก่อนมาโชว์ด้วยเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไปถึงความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้  วันที่ผมเข้าไปชมที่นี้นั้น มีนักโบราณคดีกำลังทำการศึกษาและบูรณะส่วนต่างๆของมหาวิหารพอดี เค้าทำงานกันค่อนข้างละเอียดและใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อไม่ให้ไปกระทบส่วนต่างๆเลยครับ ภายในซึ่งมีโคมระย้าอันใหญ่และรูปทรงของเสาที่ทำให้เรานึกย้อนกลับไปสมัยอัศวินเลยทีเดียว ที่มหาวิหารแห่งนี้เค้าจะมีการร้องประสานเสียงและการแสดงของศาสนิกของเค้าอยู่บ่อยๆครับซึ่งจะมีเครื่องเล่นดนตรีอยู่ภายในหลากหลายชนิด  รูปปั้นและลวดลายที่งดงามมีความโค้งเว้า ซึ่งช่างศิลปกรรมสมัยก่อนของเค้ามีความสามารถสูงมากๆครับที่สามารถทำปฏิมากรรมได้ละเอียดขนาดนี้ ภายในของมหาวิหารก็ยังมีการประดับประดาด้วยเครื่องทองและทองเหลือง บรรยายถึงประวัติของพระเยซู คริสต์อีกด้วยสวยงามมากๆครับ
นี่อันนี้เจ๋งและมีความเป็นเยอรมันมากๆ มีนกอินทรีและบันไดขึ้นไปเพื่อให้พระของเค้าขึ้นไปพูดเทศนาบนนั้น ทำบันไดเรียบๆก็ไม่ได้ดูดิครับ ปั้นเป็นหน้าของนักบุญและประวัติศาสตรอีกด้วย หลังจากเดินชมไปพอสมควรผมก็ออกเดินต่อข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ Pegnitz  ซึ่งเป็นสะพาน Museumsbrücke หรือ Museum’s bridge ที่จะมองเห็นร้านอาหาร Heilig-Geist-Spital ที่เปิดให้บริการมายาวนานโดยแต่ก่อนเป็นอาคารเก็บเครื่องราชภัณฑ์โบราณ (เรียกชื่อไม่ถูกประมาณนี้แหละ)

ใครเดินข้ามสะพานมาเจอก็ต้องถ่ายไอ้เนี่ยครับ คือไรไม่รู้แต่สวยดี ดูขลังๆ เดินต่อมาเรื่อยก็มาถึง Hauptmarkt เป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองมีของขายเพียบครับแต่เป้าหมายของผมคือมาที่ วิหาร Frauenkirche หรือ Church of Our Lady เป็นโบถส์สไตล์โกธิค สร้างขึ้นเมื่อปี 1352  เดินเข้าไปกันเลยลืมถ่ายด้านหน้าเข้าไปดูกันก่อนเดี๋ยวถ่ายให้ดูอีกทีภายในเป็นสไตล์เดียวกันคล้ายๆมหาวิหารแรกครับ  ภายในวิหารแห่งนี้ยังคงความเก่าและประวัติศาสตร์ไว้ได้ดีทีเดียวเค้ารักษากันไว้ดี วิหารแห่งนี้กว่าจะสร้างเสร็จก็ 10 ปีแน่ะนานมากก
ข้างบนของวิหารจะเป็นระฆังบอกเวลา ซึ่งจะมีหุ่นต่างออกมาเคลื่อนไหวรอบๆตัวหุ่นจักรพรรดิครับ บริเวณภายในเมืองเก่าก็มีร้านค้าต่างๆมากมายแอบอยู่โดยการทำร้านจะล้อไปตามสถาปัตยกรรมของเมืองนั้นๆได้อย่างกลมกลืน อย่างแบบนี้คือร้านของ Starbuck มีร่มกางมานั่งชิลๆริมแม่น้ำอาบแดดกัน
ขากลับก็เดินสำรวจเมืองไปอีกทางเพื่อจะได้เห็นเมืองได้ครบๆแล้วก็จะเป็นทางที่ผ่านไปทางร้านไส้กรอกเยอรมันอันโด่งดังอีกด้วยครับ แต่ผมมีอีกร้านนึงจะแนะนำเช่นกันเดี๋ยว รีวิวหน้าจะเอาให้ชมกัน ผมว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่สงบน่าอยู่เมืองนึงเลยทีเดียวน่านั่งด้วย ดึงดูดเงินในกระเป๋าดีจริง เดินไปเดินมาไปเจอรถคันนี้สีบาดใจมาก ชมพูปรี๊ดเลย
พอเดินวนมาอีกทางเพื่อจะออกทางกำแพงเมืองอีกฝั่ง พื้นถนนของเค้าจะปูด้วยอิฐคงความขลังของเมืองสมัยโบราณได้ดีจริงๆ ร้านต่างๆเอาโต๊ะออกมาตั้งด้านนอก คืออากาศเค้าดีน่ะครับถ้าบ้านเราแดดเผาตาย แนวกำแพงเมืองเก่าจะมีหน้าตาประมาณนี้ จะมีป้อมปราการเป็นระยะๆเพื่อเฝ้าระวังภัยจากภายนอก
บริเวณริมๆกำแพงก็จะมีร้านเล็กๆซ่อนอยู่บรรยากาศเหมือนคุณอยู่ในยุคโบราณจริงๆ ร้านแถวนี้มีขายพวกขาหมูเยอรมันและไส้กรอกเยอรมันด้วยนะครับ ทานแกล้มเบียร์อร่อยมาก เดินชมร้านต่างๆจนหนำใจก็คงถึงเวลาต้องจากเมืองนี้เพื่อจะไป Rothenberg ob de Tauber เมืองแห่งอัศวินกันครับ เจ๋งมั้ยครับดูการสร้างกำแพงของเค้าและอิฐแต่ล่ะก้อน ในแต่ล่ะประเทศก็จะมีเทคโนโลยีในสมัยนั้นๆในการก่อสร้างแตกต่างกันไป ดูความทันสมัยและความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิในอดีตครับ จุดหมายหน้าเพื่อจะไป Rothenber ob de Tauber เมืองแห่งอัศวินแล้วก็พาไปกินขาหมูเยอรมันด้วยครับ  อ่ะๆรถไฟมาแล้วครับเดี๋ยวไปกันต่อแล้วคุณจะรักเมืองนี้เหมือนกันผม

อย่าลืมติดตามกันต่อได้ที่เพจนะครับ มีอะไรสอบถามมาได้ตลอดเลย

FB : www.facebook.com/i2escape

IG : www.instagram.com/i2escape

Website : www.i2escape.com

Exit mobile version