EP1.4 มุ่งสู่ Interlaken สวิส สรุปทริปในปารีสและเทคนิคการจองรถไฟให้ได้ราคาถูกที่สุด

Tony

8 years ago

EP1.4 มุ่งสู่ Interlaken สวิส สรุปทริปในปารีสและเทคนิคการจองรถไฟให้ได้ราคาถูกที่สุด

เช้าวันสุดท้ายของชีวิตในนครปารีสที่คนทั่วโลกเฝ้าไฝ่ฝันหลงใหลอยากมาที่นี่สักครั้งเพื่อชมความสวยงาม สิ่งต่างๆที่น่าสนใจ ยิ่งใหญ่อลังการด้วยประวัติความเป็นมาของมันหรือมูลค่าอันมหาศาลที่นับไม่ได้ ซึ่งแล้วแต่ความตั้งใจของแต่ล่ะคน ส่วนผมน่ะเหรอครับขอแค่ให้ได้มาสักครั้งนึงก่อน ชีวิตมนุษย์เงินเดือนมันไม่ง่ายนะครับกับการที่จะต้องมาจ่ายเงินเป็นแสนมาเที่ยวบ่อยๆ คงได้แต่เที่ยวแบบแบกเป้คงจะประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุดเลยเกิดทริปนี้ขึ้นมา ซึ่งผมก็ต้องวางแผนการเดินทางให้รอบคอบที่สุดเพื่อจะประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือฟุ่มเฟือยออกไปหรือการได้มาซึ่งตั๋วลดราคาต่างๆไม่ว่าจะเป็น ตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟ รถบัสสารพัดการเดินทางที่จะประหยัดลงอย่างมากถ้ามีการวางแผนดีๆ แต่ถ้าใครมีเงินเหลือพอหรืออยากจะสบายหน่อย ซื้อ Eurail Pass ก็ไม่ว่ากันเอาที่สบายใจ แผนการเดินทางของผมหากใครมาอ่านหรือมาเจอเวบผมทีหลังก็ดูจากอันนี้นะครับ Backpack ยุโรป 20 วัน กับงบ 65000+10000 แบบสบายๆไม่ลำบาก คงจะช่วยคุณในการวางแผนเดินทางได้ไม่มากก็น้อย

มาเข้าเรื่องดีกว่า เช้าของวันสุดท้ายในปารีสครับผมกินพวกอาหารที่ทางเจ้าของห้องเตรียมไว้ให้เค้าไปซื้อที่ Super Market มาให้เรากินแหละครับ ทุกอย่างซื้อ Super Market ถูกสุดประหยัดสุดจริงๆ

ภาพมาม่าอยากให้ดูมันคือมาม่าห่อแรกในปารีสของผมพร้อมไข่ไก่จากแม่ไก่ในปารีสเอามากินด้วยกันเข้ากันดีจริงๆ 5555555555555555 มันสำคัญจริงๆนะครับมาม่าเนี่ยคือคุณจะเบื่อเอียนเลี่ยนอาหารของยุโรปไปอีกนานเหมือนผม ผมกินทุกวันจนผมจะแย่สุดท้ายทนไม่ได้ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อหาอาหารเอเชียกินพอมีรถชาดก็ยังดี เชื่อมั้ยว่ามันแพงกว่าแซนวิส ขนมปัง ใส้กรอก พิซซ่าอีกนะ พกได้พกไปเถอะครับ
อ่ะอันนี้เริ่มจริงๆแล้วครับตื่นเช้ามาผมเริ่มจัดกระเป๋าเก็บของให้เรียบร้อยเตรียมตัวออกเดินทาง อาบน้ำอาบท่าเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะผมวางแผนที่จะเดินไปที่สถานี Gare de Lyon เพื่อประหยัดค่ารถไฟไม่กี่สถานีจาก Nation ดังนั้นต้องเผื่อเวลาในการเดินพอสมควร ต้องรีเช็คของทั้งหมดเพื่อไม่ให้ลืมอะไรไว้ทั้งนั้น เพราะเราจะไม่ได้กลับมาเอาอีกแล้วถ้าจะให้ส่งไปมาคงจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เห็นการจัดกระเป๋าของผมแล้ว ผมใช้กระเป๋าแบ่งเพื่อจัดเรียงของในการหยิบฉวยได้ง่ายครับมาดูภายในห้องกันหน่อยมั้ยครับว่าเป็นไงบ้างสบายหรือไม่สบายยังไง ผมจองจาก Airbnb นะครับ https://th.airbnb.com/rooms/9401323 โดนตัดเงินผ่านบัตรเครดิตที่เรา Add ไว้ใน Airbnb นะครับ ตามนี้เลยของ Jamie เป็นนักศึกษา ป.โทและเป็นเทรนเนอร์ด้วยมาดูภายในห้องกันผมว่าโอเคเลยแหละถ้าใครไม่เรื่องมากเรื่องที่นอนว่าจะต้องเป็นเตียงแต่คือเค้าเป็นที่นอนวางกะพื้นให้นอนมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น มีเครื่องซักผ้า บลาๆเยอะแยะมากมายคุ้มครับคืนล่ะ 1900 บาท เช้ามาทุกวันผมก็กินพวก Break Fast แบบซีเรียลมีธัญพืชเยอะมากหลายแบบให้คุณเลือกทานกินได้ตลอดครับ มีนม ขนมปังเค้าซื้อมาไว้ให้เรากิน อ่อยังมีไข่อีกด้วยครับ ผมอาศัยอาหารเช้าจากที่นี่ทำให้มีแรงเดินขึ้นเยอะคืออัดเต็มครับ 5555

มีเตาไฟฟ้าให้สามารถหุงหาอาหารได้ตามสะดวกแล้วแต่จะทำครับพร้อมอยู่เหมือนอยู่บ้านแหละครับ สภาพภายในครั้งคือมีทุกสิ่งขอแค่คุณทำอาหารเป็นก็ไม่ลำบากแล้วครับจะต้มมาม่าจะไข่เจียวจะอะไรมีหมด
ห้องนั่งเล่นก็สามารถออกมานั่งได้สบายชิลๆมีทีวีให้ดูแต่คือฟังไม่ออกครับอย่าไปฟังมันเลย เวลากินข้าวเค้าขออย่างเดียวอย่าเอาเข้าไปกินในห้องนอน ให้กินที่โต๊ะกินข้าวหรือในครัวครับ จะรีดผ้าจะทำอะไรมีหมดผมบอกแล้วเหมือนอยู่บ้านจริงๆ
เพียบครับเห็นอย่างงี้คือสะอาดมากนะครับ แค่ข้าวของเค้าเยอะดูรกอย่างว่าห้องวัยรุ่นครับอยู่กันได้สบายๆ ทุกเช้าผมจะเติมน้ำใส่ขวดไปขวดหรือสองขวดเสมอเพื่อนำไปกินระหว่างเดินเที่ยวเพราะมันแพงครับน้ำจากก๊อกในยุโรปสามารถกรอกใส่ขวดทานได้เลยครับเพราะเค้าจะไม่ค่อยมีขาย Water เท่าไหร่จะเป็น Sparkling ซึ่งมันจะแพงและเปลืองโดนใช่เหตุนะครับ อย่าไปซื้อเลยครับเอาเงินไปซื้อเบียร์หรือน้ำอัดแทนยังดีซะกว่า
เบื่อๆก็ต้มไข่ กินไข่ลวกบ้างอะไรบ้างไปตามประสาครับเอาให้อิ่มมีแรงออกไปเดินเที่ยวเป็นพอเมื่อเสร็จภาระกิจทุกอย่างร่ำลาเจ้าของห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมก็ต้องเริ่มออกเดินเป็นระยะทางเกือบ 2 กิโลดูมันไม่ไกลใช่มั้ยครับ แต่ถ้าแบกเป้หนักๆประมาณ 10 กว่าโลมันไกลมากครับแล้วผมกะว่าตอนรอรถไฟมีเวลาเดินเที่ยวรอบก็เลยแยก Day Pack ไว้อีกครับดูสภาพนะครับ

ระยะทางประมาณ 1.7 กิโลครับด้วยการเดินล้วนๆ 21 นาทีแต่ผมใช้มากกว่านั้นเพราะแวะถ่ายรูปด้วยอะไรด้วยกว่าจะถึง ก็สัก 30 กว่านาที

พอถึงที่สถานี Gare de Lyon ที่เราจะขึ้น TGV จาก Paris ไป Interlaken ครับ ใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 6 ชั่วโมง ผมซื้อตั๋วจากเวบ http://tgv.uk.voyages-sncf.com/en/ ในราคา 29 Euro ครับซึ่งปกติจะประมาณ 150 – 200 ยูโร ในเส้นทาง Paris – Interlaken ครับ ควรจะวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและซื้อตั๋วรถไฟจากเวบนี้ประมาณ 3 เดือนครับแทบจะจ้องกันเลยทีเดียว ยิ่งซื้อก่อนยิ่งถูก จะเปิดก่อนวันที่เราต้องการจะไปประมาณ 3 เดือนโดยประมาณ เป็นไงบ้างครับถูกใช่มั้ยล่ะแต่ คุณจะต้องมาตรงเวลานะครับหากมีการตกลงมาไม่ทันเรียบร้อยครับ เสียตังเพิ่มแน่นอน มาดูตัวอย่างตั๋วกัน

เมื่อซื้อตั๋วแล้วเราสามารถปรินท์มาเป็นหลักฐานได้นะครับแนะนำให้โหลดแอพของเค้ามาลงเครื่องไว้ก่อน พอกลับไทยค่อยลบยังได้เพราะเราสามารถเปิดแอพแล้วเอาตั๋วให้เค้าดูได้ แต่ยังไงซะต้องปรินท์และนำไฟล์ ส่งเก็บไว้ใน อีเมลของตัวเองกันหายนะครับจะได้มีไว้ยืนยันเวลาฉุกเฉิน

พอเดินไปถึงสถานีเวลามันเหลือต้องไปหาที่เดินเที่ยวฆ่าเวลาต่อ เลยจำเป็นต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ตู้ฝากกระเป๋า เป็นห้อง อยู่ชั้นล่างของสถานี Gare de Lyon เดินตามรูปกระเป๋าไปครับจะเจอทันทีกระเป๋าและตัวเราก่อนจะเข้าห้องฝากกระเป๋าจะต้องถูกสแกนก่อนครับเพราะเนื่องจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ผ่านมา ลองมาดูตัวอย่างการใช้งานตู้ Locker อัตโนมัติแบบหยอดเหรียญนะครับ มันเป็นตอนเอาออกนะครับ ง่ายๆคือ

1.เตรียมเหรียญ หรือแบงค์ไปนะครับ

เลือกขนาดตู้ให้พอดีกระเป๋าเราครับ
หยอดเหรียญลงไป ได้ตั๋วมาใบนึงเก็บไว้ให้ดี อ่อแล้วก็ปิดให้เรียบร้อยเช็คให้ดีก่อนออกมาว่าปิดแล้วเรียบร้อย อย่าไปไว้ใจฝรั่งมากครับ
พอกลับมาเอาก็เหมือนเดิม สอดตั๋วเข้าไปแล้วก็เปิดตู้เอากระเป๋าไปได้เลย

พอฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินเล่นมาตามแม่น้ำซึ่งสองฝั่งเป็นตึกรามบ้านช่องและเป็นที่จอดเรือของคนฝรั่งเศส ครับ ผมเดินเลียบแม่น้ำ เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ซึ่งเหมือนฟ้าดินจะลงโทษ วันที่เราจะไปแล้วฟ้าใสมากน่าถ่ายรูปเป็นที่สุดครับ อากาศเย็นสบายยยโถ่

ตึกรามบ้านช่องต่างๆบริเวณริมแม่น้ำของเค้า น่าอยู่มากๆครับ เรามาชมภาพบรรยากาศของบ้านเมืองเค้าไปเรื่อยๆดีกว่า ภาพพวกนี้เป็นสิ่งที่ผมพบเห็นจริงๆ เพราะผมเห็นคนชอบถ่ายให้ดูแต่สถานที่สำคัญๆแต่มองภาพไม่ออกว่าบ้านเมืองเค้าเป็นอยู่กันอย่างไร Yacths de Paris ท่าจอดเรือยอร์ชของบรรดาผู้มีอันจะกินของปารีสครับผมเห็นบางคนเหมือนจะนอนในเรือด้วยซ้ำ
บริเวณข้างแม่น้ำก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟตั้งอยู่ให้เรานั่งชิลๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศครับ มองไปไกลๆจะเห็น มหาวิหาร Notre Dam ที่ผมเดินเปียกปอนเพื่อไปถ่ายรูปกันเลย สนุกดีครับโชคยังดีไม่เป็นอะไรเลยคงเพิ่งจะวันแรกๆร่างกายเลยยังไหวอยู่

เดินวนแม่น้ำมาอีกฟากนึงใกล้ๆกับ Gare de Lyon เป็น PARIS Gare d’Austerlitz MUSEUM เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 6 ของปารีสครับ

ได้เวลาผมคงต้องเดินกลับกันแล้วสุดเจ็บใจที่ฟ้าดันเปิดวันนี้ไม่งั้นคงจะมีภาพสวยๆได้กับเค้าบ้าง ก่อนจะออกเดินทางไกลนั่งรถไฟถึง 6 ชั่วโมงไป Interlaken นั้นก็คงต้องหาอะไรกินก่อนเป็นร้านพวกอาหารแขก ตุรกีครับราคาไม่แพงมีไวไฟฟรีให้เล่นด้วยก็เลยต้องยอมกิน แต่รสชาดโอเคนะครับต้องกินตอนร้อนๆนะครับ
พอกินเสร็จปั๊ป อ้าวเดินมาเจอร้าน Eric Kayser ร้านขนมชื่อดังของฝรั่งเศสทั้งๆที่อิ่มแล้วคงต้องขอเลี้ยวเข้าไปซื้อครับ เดินเข้าไปในร้านผมเจอกับสายตาของ พนักงานร้านนี้ที่มองแบบโคตรเหยียด เหมือนมรึงจะมีตังซื้อมั้ยเพราะสภาพคือ Traveller กะโปโลมากๆครับ ผมยืนเลือกอยู่นานก็สั่งมากิน ถ้าซื้อกินบ้านราคาจะถูกกว่านี้ประมาณ 1 Euro เลยทีเดียวแต่จำเป็นแล้วล่ะครับต้องกินที่ร้าน
ดูราคาและเมนูกันเอาเองเลยครับแพงง่ะ แต่ทำไงได้มาถึงถิ่นคงต้องกินแล้วล่ะครับ แถ่น แถ๊นนน สั่งมาแระน่ากินมั้ยครับคือกล้องผมมันถ่ายใกล้ๆไม่ได้มาก เลนส์คิทของ Sony A6000 ถ่ายมาโครไม่ค่อยแจ่มเลย ทำไงได้ไม่มีตัง 555555 เอาแค่นี้ล่ะ สถานี Gare de Lyon หน้าตาแบบนี้ครับมีสถาปัตยุกรรมสวยๆให้ถ่ายรูปก่อนจะจากลาไปอีกหน่อย ภายในชานชาลาของสถานีเราต้องดูป้ายให้มั่นใจนะครับว่ารถไฟจอดที่ชาลาไหน section ไหนของชานชาลา A B C D ไปยืนรอให้ถูกไม่ใช่แค่ดูชานชาลาแล้วจบเพราะบางทีรถไฟมันจอดต่อกันครับ ก่อนขึ้นก็ต้องดูตู้โบกี้ให้มั่นใจครับ ไม่มั่นใจคุณต้องถามทันทีถ้าคุณตกรถก็จบครับ
ภายในสถานีก็มีไวไฟฟรีให้เล่นแล้วก็มีร้านอาหารมากมาย จำไว้เลยถ้าอยากกินของถูกๆไม่แพงมากกินมันแถวนี้ล่ะครับ ถูกที่สุดแล้วหรือไม่ก็ Super market อย่าไปอายครับเราต้องประหยัดเอาตังไปเที่ยวต่อ รถไฟของเรามาแล้ว TGV Lyria เพื่อไป Interlaken เย้ๆๆๆๆๆ ภายในรถไฟครับนั่งสบายนอนสบายเพราะเป็นรถที่เดินทางยาวไกลเหลือเกินกว่าจะถึง สวิสก็ เกือบเที่ยงคืนเราก็ต้องผจญภัยกันต่อเพราะเกิดปัญหานิดหน่อยตรงที่ โรงแรมที่ผมจองไปไม่เปิด Front 24 ชั่วโมง จึงต้องแคนเซิลแล้วหาโรงแรมใหม่ซึ่งมันก็เต็มเกือบหมดเหลือแต่แพงๆสู้ราคาไม่ไหวก็เลยกะว่าจะนอนสถานี สุดท้ายเลยต้องลอง แอพ couch surfing ดู สุดยอดลุ้นเลยครับ ยังโชคดีที่คนที่สวิสยอมให้เรานอนพักที่บ้านเค้าได้ต้องขอบคุณแอพนี้จริงๆ และขอบคุณน้ำใจของ Hanspeter และ Manuela ที่ช่วยเหลือ I am appreciate for everything.