EP 1.3.1 ฝ่าสายฝนชมCentre Pompidou,มหาวิหารNotre Dam ,Hotel de Ville,Église Saint-Séverin,พระราชวังลุกซ์ซองบูร์ก

Tony

8 years ago

EP 1.3.1 ฝ่าสายฝนชมCentre Pompidou,มหาวิหารNotre Dam ,Hotel de Ville,Église Saint-Séverin,พระราชวังลุกซ์ซองบูร์ก

พอออกจาก Musee du Lourve เสพศิลปในยุคเก่ากันแล้วผมก็เดินฝ่าสายฝนกันต่อไปที่ Center of Pompidou เดินผ่าน Hotel de Ville ไปยังมหาวิหาร Notre Dam , แวะโบสถ์ท้องถิ่นอย่างสวยงามเลยครับที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไป Église Saint-Séverin ซึ่งเป็นทางผ่านไปยัง Pantheon และพระราชวังลุกซ์ซอลบูร์ก วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะอยู่ที่ปารีสแล้ว ผมจะไปต่อที่ Interlaken, Switzerland. เพื่อจะขึ้นไปยังเทือกเขาชิลธอร์น

มาดูแผนการเดินต่อจากเมื่อลูฟก็นั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Palais Royal Musee du Lourve ไปยัง Chatelet แล้วลงเดินต่อครับ ดูตามลูกศรนะครับแต่พวกนี้ต้องคนเดินไหวเหมือนกันนะครับถ้าชอบเดินก็โอเคครับดูอะไรไปเรื่อย ผมว่าเดินไปตามบ้านเมืองของเค้าเราได้เห็นอะไรๆอีกเยอะที่น่าสนใจนะครับ

มาต่อกันเลยครับฝนตกเปียก ผมเดินแวะไปเรื่อยเพราะไม่รู้จะรีบไปทำไมแล้ว มีร้านขายของที่ระลึกอยู่ด้านหน้า Center of Pompidou เต็มเลยครับเผื่ออยากจะแวะซื้ออะไรติดไม้ติดมือไป ราคาไม่แพงผมซื้อ Post Card เพื่อส่งกลับมายังเมืองไทย พอเดินเข้าไปกะว่าจะเข้าไปดูซะหน่อยปรากฏว่ามีค่าเข้าด้วย อ้าวทำไงล่ะทีนี้ ดูๆแล้วคือเสพศิลปที่พิพิธภัณฑ์ลูฟมาจนเอียน งั้นตัดสินใจถ่ายรูปข้างนอกแล้วไปตรงที่ฮิปๆหน่อยดีกว่า เดินเลยไปทางด้านข้างครับ หรือใครอยากจะเข้าก็ราคาค่าตั๋วตามนี้เลยครับ ถ้าคนสนใจ Art นะครับ

ผมขอถ่ายรูปแล้วเดินผ่านพอครับ ทริปนี้ต้องประหยัดแล้วก็ผมไม่ใช่สาย Art ซะด้วย

เดินมาถึงตรงแถวๆที่เป็น Grafiti เท่ห์ๆขอไปถ่ายรูปซะหน่อยครับ มันเป็นอะไรที่ Modern Art มากๆครับ
ที่นี่เป็นแนว Modern Art อะไรๆที่มันฟรีสไตล์ คิดอะไรก็ทำออกมาเป็นงานที่ Creative ผมชอบแนวๆนี้มากกว่า ขอสักนิดกลางสายฝน ฝนมันตกเยอะจริงๆครับแล้วตอนนี้เค้ากั้นรั้วแล้วด้วยห้ามเข้าไป เลยถ่ายภาพมาได้แค่นี้เอง ผมยังงงอยู่ว่าเค้าขึ้นไปวาดรูปตรงนั้นได้ไง หรือว่าเขาอนุญาตแล้วครับ ฝนตกอากาศก็หนาวไม่รู้จะถามใครคงต้องเดินต่อไป ระหว่างทางเดินไปต่อที่ Hotel de Ville หรือศาลาว่าการเมืองปารีสนั่นเองครับลุยกันต่อเลย ฝนตกก็ต้องยอมเวลาไม่มากแล้ววันสุดท้ายจริงๆ เมื่อผมเดินมาตาม Route ที่ดูในแผนที่แล้วก็มาถึง Hotel de Ville ครับแต่เวลาเริ่มน้อยลงทุกทีและมีการซ่อมแซมก่อสร้างด้วยอากาศก็ไม่ดี ท้องฟ้าขมุกขมัวตลอดเวลาคงไม่เข้าไปครับเดินถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วผ่านไปยัง มหาวิหาร Notre Dam เลย เลยผ่านมานิดเดียวข้ามสะพานมาเราก็มาเจอ มหาวิหาร Notre Dam ตั้งตระหง่านอยู่อย่างสวยงามครับ ด้านหน้าเป็นลานกว้างๆผมก็หยุดถ่ายรูปอยู่แปปนึงเก็บภาพกว่าจะได้ก็ถ่ายมาได้เท่านี้ล่ะครับ เดินเข้าประตูกันเลยดีกว่านี่ขนาดฝนตกคนยังเยอะขนาดนี้เลยครับ
โหสุดยอดสมเป็นมหาวิหาร ทริป 20 วันของผมแทบจะกลายมาเป็น ทริป 9 โบสถ์กันเลยทีเดียวเพราะไปแต่โบสถ์ คือสถาปัตยกรรมมันสวยจริงๆครับความยิ่งใหย่อลังการและประวัติมานับร้อยนับพันปีมันเลยน่าสนใจเป็นอย่างมากครับ ชาวคริสต์เข้ามาขอพรต่อพระเจ้ากันเต็มไปหมด ผมคงได้แต่เดินชมความสวยงามเฉยๆแต่ยังไงซะต้องไม่รบกวนผู้อื่นนะครับ เสียงชัตเตอร์และไฟแฟลชอะไรพวกนี้ก็พยายามเลี่ยงครับ จุดเทียนขอพรหน่อยให้ทริปนี้สะดวกโยธินปลอดภัยไร้กังวลเพราะช่วงที่ผมไปเพิ่งเกิดเหตุก่อการร้ายที่ปารีสไม่นานนี้เอง สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายเท่าไหร่ครับ บางทีเวลาเดินไปที่ไหนก็ต้องระวังตัวไว้ตลอดเช่นกันเพราะผมไปแต่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆทั้งนั้นเลยครับ ออกจากมหาวิหาร Notre Dam ก็จะตรงไปยัง Pantheon ซึ่งผมก็เดินไปเรื่อยเปื่อยเห็นตรงไหนน่าสนใจผมก็แวะอย่างเช่นที่นี่ เป็นโบสถ์ท้องถิ่น Église Saint-Séverin ครับ

ตามแผนที่อันนี้เลย เดินนะครับเพราะอยากเห็นอะไรเยอะๆอยากแวะไปเรื่อยๆครับ จาก Notre Dam เดินข้ามสะพานแวะถ่ายรูปหน่อยนึงแล้วเดินต่อค่อนข้างจะยาวนะครับแต่ถ้าไม่เดิน ก็ไป Pantheon ไม่ได้ใกล้เลยครับ เพราะไม่มีรถไฟฟ้าผ่านที่ตรงนั้นเลย มีแต่ใกล้ๆก็ลองเลือกเอาดูครับไม่ก็นั่ง Tram ครับ

ดูความงามของมันสิครับ สวยมากๆๆๆๆๆ เลยขอเข้าไปหน่อยเป็นโบสถ์เล็กๆครับ ดูแล้วอายุน่าจะเป็นร้อยๆปีเหมือนกันครับ มันมีความเก่าความคลาสสิคของมันจริงๆ สถาปัตยกรรมของยุโรปสมัยก่อนมีการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าและอื่นๆผ่านภาพวาดและกระจกสี คล้ายๆกันกับทุกที่ครับ รูปแบบการก่อสร้างมาในแนวเดียวกัน ดูคลาสสิคและมีความขลังของมันจริงๆ ได้มุมล่ะครับขอหน่อยเถอะ ดูดิบๆขลังๆดีครับ เข้าไปถ่ายรูปสักพักเดินต่อครับเพื่อไปยัง Pantheon ครับเดินต่อไปจริงๆเริ่มปวดขาแล้วครับฝนก็ตกแต่เอาวะสู้ๆเดินต่อดีกว่าจะได้เก็บได้ครบเวลาไม่เหลือแล้วครับต้องไปต่อที่อื่น
แถวนี้เป็นย่านมหาลัยครับเดินกันเพลิน เด็กมหาลัยเพียบในที่สุดก็มาถึงแล้วครับ Pantheon แต่ปิดซะงั้น อุตส่าห์เดินมาตั้งไกล ดูประวัติของมันได้ตามนี้เลยครับ https://en.wikipedia.org/wiki/Panth%C3%A9on

http://www.pantheonparis.com/history/facts
นั่งพักสักแปปเดินต่อมาที่ พระราชวัง Luxembourg ท่ามกลางสายฝนพรำ ทรหดอดทนจริงๆครับถ้าฝนไม่ตกจะดีกว่านี้มากๆเลยครับ พามาถึงมันจะเย็นแล้วครับเค้าปิดด้วยแล้วก็มีการ Renovate สถานที่ใหม่เลยไม่มีดอกไม้อะไรมากมายให้ถ่ายรูปเหมือนรีวิวของคนอื่นๆเค้า ผมก็ได้แต่ถ่ายรูปด้านนอกไปแล้วกัน ถ่ายรูปจนพอใจก็เดินออกมาหาทางกลับมองหาแต่ป้าย M ดูในแผนที่เพื่อจะกลับไปยัง Nation พอถึงสถานีมันเหนื่อยจริงๆเดินตากฝน เลยขอแวะ Irish Pub ดื่มเบียร์ให้หายเหนื่่อยซะหน่อยครับ เป็นเบียร์ดำกับ Wheat อร่อยๆ แก้วล่ะ 2.5 Euro ครับหายเหนื่อย พร้อมด้วยพิซซ่าจาก Pedro เพื่อใหม่ของผม ทำงานอยู่ร้านนี้ครับเค้าชอบคนไทยมากๆ เพราะเคยทำงานอยู่สมุยมานานหลายปี ก็เลี้ยงเบียร์และพิซซ่าพวกผม ไปถึงเราก็เจอน้ำใจจากต่างแดนมา ขอบคุณมากๆเลยครับ